ระดับเสียงประมาณไหนถึงเรียกว่ารบกวน
ความรู้สึก “รบกวน” ของเสียงจะขึ้นอยู่กับ ระดับเดซิเบล + ความถี่ + ระยะเวลา + ความไวของแต่ละคน
แต่ถ้าเอาตามเกณฑ์ทั่วไปและงานวิจัยเรื่องสุขภาพการนอน จะประมาณนี้:
✅ ต่ำกว่า ~30 dB
ถือว่า เงียบมาก
แทบไม่รบกวนคนส่วนใหญ่
ตัวอย่าง: ห้องนอนกลางคืนที่สงัด, ห้องสมุดเงียบ
✅ 30–40 dB
เริ่มเป็นเสียงพื้นหลังที่บางคนไวต่อเสียงอาจได้ยิน
ถ้าเป็นเสียงต่อเนื่อง (แอร์, พัดลม) มักปรับตัวได้ง่าย
ตัวอย่าง: เสียงพัดลมหมุนเบา ๆ, เสียงข้างบ้านไกล ๆ
✅ 40–50 dB
เริ่มเป็นเสียงที่อาจรบกวนคนที่หลับยากหรือมีความเครียด
เสียงกระซิบใกล้หูอยู่ราว ๆ 40 dB
ถ้าเป็นเสียงแหลม ๆ หรือจังหวะไม่สม่ำเสมอ อาจสะดุ้งตื่น
✅ 50–60 dB
ระดับเสียงรบกวนชัดเจน
มีโอกาสรบกวนวงจรการนอน ทำให้หลับตื้น หลับไม่สนิท
ตัวอย่าง: เสียงการจราจรใกล้บ้าน, เสียงคุยปกติข้างเตียง
✅ 60 dB ขึ้นไป
รบกวนการนอนชัดเจน สำหรับคนทั่วไป
มีผลต่อคุณภาพการนอนและสุขภาพ (ตาม WHO)
ตัวอย่าง: เสียงทีวีดัง ๆ, การจราจรติดไฟแดงหน้าบ้าน, เสียงตะโกน
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า
เสียงรบกวนขณะนอนหลับไม่ควรเกิน ~30–40 dB หากเป็นเสียงต่อเนื่อง
เสียงสูงกว่า 45 dB (โดยเฉพาะเสียงกระทันหัน) มีโอกาสรบกวนการนอน
เราสามารถวัดเสียงได้จากเครื่องวัดเสียง หรือ Sound Master Level